ปัญหาทางด้านศัลยกรรม  ลงเพิ่มเติมได้ครับ ทางคลินิกจะได้ทำการปรับปรุงแก้ไข ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ

ถึงคุณความเห็นที่2และ3อย่าลืมว่าการศัลยกรรมแต่ละครั้งเนี่ยเราไม่สามมารถทำได้เองใช่มั้ยค่ะ หมอต้องเป็นคนทำให้เรา เราต้องปรึกษาหมอก่อนใช่มั้ย เพราะหมอจะเป็นคนวิเคราะห์ได้ดีที่สุด ว่าสมารถทำได้หรือไม่ และที่เจี๊ยบมาที่นี่เดินทางจากกรุงเทพเพื่อมาทำศัลยกรรมที่เชียงใหม่ เพราะมั่นใจในฝีมือคุณหมอเห็นว่ามีประสบการณ์ถึงได้มา แล้วทำไมหมอไม่บอกเลยตั้งแต่ทีแรกเพราะหน้าเจี๊ยบแทบไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ที่เจี๊ยบมาทำเนี่ยคือการตัดกรามและโหนกแก้ม ซึ่งถือว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่ ไม่ใช่เสริมจมูกที่จะไม่ชอบเบี้ยว-เอียงแล้วจะมาเอาออกกันได้ง่ายๆ กว่าจะผ่านมาได้มันเจ็บมากนะค่ะ แล้วค่าใช้จ่ายเกือบแสนถ้าป็นเงินหลักพันเจี๊ยบคงไม่เสียดายเท่าไหร่หรอกค่ะ ที่คุณหนูแหม่มบอกว่าอย่าเสียดายเงินเลยค่ะเพราะเราอยากทำเอง แสดงว่าแล้วแต่โชคจะเข้าข้างหรอค่ะ เจี๊ยบไม่ได้จะมาก่อหวอดอะไรหรอกนะค่ะ แต่อยากให้เข้าใจตรงนี้บ้าง

เห็นใจค่ะ

ทางคลินิคน่าจะแก้ไขให้ฟรี หรือแก้ในราคาที่ถูกมากๆ 

เพราะทุกคนที่มาทำศัลยกรรมมีความคาดหวังว่าจะต้องมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี  เพราะเสียทั้งเงิน(ที่แสนจะหายาก) และเจ็บทั้งตัว(ถ้าไม่อยากสวยจริงๆ ก็คงไม่มีใครกล้าเจ็บตัวกับการทำศัลยกรรม)

เป็นกำลังใจให้คุณเจี๊ยบค่ะ

เห็นใจคุณเจี๊ยบนะ    เป้นแบบนี้ แล้ว ทางคลีนิค ไม่  ออกมารับผิดชอบอะไรเลย    ทางคุณจี๊ยบ ก็อยากสวย   และทางคลีนิค ก็อยากได้เงิน     แต่ คุณเจี๊ยบเสีย เปรียบ ที่ต้องเสียเงินแบบเต็มๆ    ผลที่ได้รับ  ไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป       การตัดกรามและกรอโหนกแก้ม    เป็นผ่าตัดใหญ่    ไม่มีรับประกันอะไรให้ลูกค้า เลย  ทั้งที่เสียเงินเยอะกว่า และเสี่ยงกว่า      ก็งงเหมือนกันนะคะ  ขนาด ทำจมูกถ้าเบี้ยวหรือทำไม่ดี ยังมีรับประกัน ทำให้ใหม่ ทั้งที่ ราคา ต่าง กัน       เห็นใจคุณเจี๊ยบ ค่ะถึงขาดตัดกราม กรอโหนกแก้ม     แต่สองสิ่งนี้   ไม่ลดหรือเปลี่ยนไปจากเดิม เลย  ทางคลีนิคไม่แก้ปัญหาอะไรเลยเหรอคะ      สู้ๆค่ะคุณเจี๊ยบ  เป็นกำลังใจให้ค่ะ

เห็นด้วยกับความคิดที่ 16 ค่ะ เพราะเราก้อเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่าทำไมเราช่างโชคร้ายทำไปไม่ได้ผลดังที่หวัง  เพราะคนส่วนใหญ่เค้าทำกันไปแล้วเค้าจบที่ครั้งเดียว  เราเสริมจมูก ณ ตอนนี้ก้อยังไม่หายดีตรงปลายจมูกซิลิโคนจะทะลุอยู่แล้ว ทำมาได้หกเดือน  ไปหาที่ไรก้อบอกว่าไม่เป็นไรๆแต่ขอความเห็นใจด้วยค่ะใครไม่เป็นไม่รู้  ทำแล้วเงินก้อเสีย ยังต้องมาคอยระแวงอีกว่าจมูกฉันจะทะลุหรือป่าว  สงสัยต้องรอให้ทะลุจริงๆหรือป่าวคะถึงจะรับผิดชอบ   

ขอแสดงความคิดเห็นนิดนึงนะคะ การให้คำแนะนำ ก็ควรเป็นการแนะนำที่สุภาพ ไม่ควรใช้คำดูหมิ่นคุณหมอเลยนี่คะ เหมือนมีเจตนาที่ไม่ดีมากกว่าอ่ะค่ะ การที่คุณออกมาพูดว่าผลงานคุณหมอไม่ถูกใจไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป ก็ควรแสดงหลักฐานหน่อยสิคะ อย่างน้อยก็แสดงถึงความบริสุทธิ์ใจของคุณเองว่าคุณควรจะได้รับความรับผิดชอบจากทางคลีนิคหรือไม่อย่างไร แต่การพูดอย่างเดียวแบบนี้เหมือนเป็นการพูดใส่ร้ายป้ายสีทางคลีนิคมากกว่าอ่ะค่ะ 

จากคห.20 รีบเอาออกหรือแก้ไขด่วนค่ะ..........น่ากลัว

มีปัญหาก็ปรึกษาที่คลินิคโดยตรงเลยดีกว่านะคะ

ไม่น่าจะว่ากันทางเน็ตแบบนี้ การทำศัลยกรรมไม่ได้หมายความว่าจะได้เหมือนที่เราอยากได้ เพราะว่ามันขึ้นอยู่กับพื้นฐานหน้าตาแต่ละคนด้วยค่ะดังนั้น ความคาดหวังว่ามันจะเปลี่ยนแปลงไปคนละคนเลยนี่คงไม่ได้ ดังนั้นเข้าใจความรู้สึกทั้งสองฝ่าย คุณหมอเขาก็อยากให้เราสวยขึ้นละนะ แต่ว่าอะนะ เข้าไปคุยดูใหม่ค่ะ คิดว่าหมอคงไม่ใจร้ายขนาดนั้นค่ะ

ที่ไม่ออกมาพูดอะไรเลย ที่ไม่ลงรูป เพราะบอกแล้วเราไม่ได้มาก่อหวอด

พี่ไก่เค้าก็เห็นหน้าเราแล้วว่าปัญหาคืออะไร

ตอนนี้ผ่านมาจะ1ปี แล้วเราทำไปเมื่อเดือน ตคปี2553

ตอนนี้หน้าเรายังกางเหมือนเดิม และโหนกแก้ม2ข้างก็ไม่เท่ากัน

เจี๊ยบตัดกราม-ตัดโหนกแก้ม-เสริมหน้าอก พร้อมกันเลย หน้าไม่เรียว ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมาก

ถามว่าทำไมเราไม่กลับไปแก้ ตอนนั้นนั้นพี่ไก่บอกว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม2หมื่น

แต่เราไม่กล้ากลับไปแล้ว อาจเป็นเพราะสถานที่ของห้องผ่าตัดในตอนนั้น

เรากลัวมากค่ะ เพราะมันคือการผ่าตัดใหญ่ ถ้าใครเคยผ่าตัดที่นี่ก็จะทราบว่าเป็นยังไง

ความเจ็บ การพักพื้น ซึ่งมันก็นานกว่าจะหายเป็นปกติ

ที่เคยบอกว่าเวลาพูดปากจะเบี้ยว เอียงมาข้างนึง หายปกติแล้วค่ะ

แต่หน้าไม่เรียวหรืออย่างที่ตั้งใจไว้เลยค่ะ แต่คงไม่ทำอะไรกะหน้าอีกแล้ว เพราะกลัวจริงๆ

ที่มาเม้นเนี่ย ไม่ได้จะมาโจมตีหรือว่าอะไร การที่เงียบไป แค่อยากให้มันจบๆไม่อยากคิดอีก

เราแค่เล่าและระบายประสบการณ์ของเราแค่นั้นเอง อยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละคนแล้วล่ะค่ะ

ขอเบอร์คนที่เคยไปตัดโหนกแก้มกับหมอหน่อยนะค่ะ  อยากตัดเหมือนกันนะค่ะ