การเตรียมตัวก่อนการศัลยกรรมสำคัญที่สุดคือการปรึกษา ตอนแรกโทรไปค่ะ พี่ไก่เค้าไม่ยอมให้ลูกค้าโทรมาเกิน 1 นาทีรีบวางแล้วก็รีบโทรกลับ ถามเรื่องทั่วไปคือ ทำแล้วมีผลไรมั๊ย?? วางแบบใต้กล้ามเนื้อรึป่าว?? ซิลิโคนไม่ใช่ของจีนนะ?? ถามจนแน่ใจแล้ว นัดพบเลยค่ะ

     วันศุกร์ที่ 1 เมษา เข้าไปหาให้ดูฐานหน้าอกก่อน พี่ไก่บอกว่าเรามีเนื้อหน้าอกใส่ 350cc. มะ แม่จ้าวใหญ่ไปค่ะพี่ พี่ไก่เอาตัวอย่างขนาด350 ใส่บนหน้าอกเรา เราเรียกเพื่อนมาดู มันใหญ่ไปจริงแหละ (แต่ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนนะ) เราขอแค่ 300cc. ตอนแรกบอกพี่ไก่ว่ากลัวคนอื่นจะรู้ แต่พี่ไก่ก็เอาเคสของแต่ละคนให้ดูว่าบางคนอ่ะใส่น้อยไปพอมันเข้าที่มันก็เล็กไปอีก เราทำเราจ่ายเงิน ไม่ใช่คนอื่นจ่ายนี่นา งั้นไหน ๆ ก็เจ็บตัวแล้วเอา 300cc. ละกันเผื่อเข้าที่ เผื่อกาลเวลาผ่านไปจะหย่อนจะยานอีก ^ ^

     เสร็จแล้วนัดวันค่ะ ได้คิววันที่ 9 เมษา 54 ตอน 9 โมง แต่พี่ไก่ให้มาตอน 8 โมง ก่อนทำอดอาหารก่อน 10-12 ชั่วโมง แล้วก็เอายาลดบวดให้กินจะให้ดีกินก่อนมาทำ 6 เม็ด แต่เรากินตั้งแต่วันพุธที่ 6 เมษา งดเหล้า กินน้ำมะพร้าววันละ 3 ลูก เพราะมันช่วยทำให้ระบบน้ำเหลืองเราดีขึ้น ออกกำลังกายเต้นไป เต้นมาวันละ 15 นาที วันที่ 8 เมษาพี่ไก่โทรมากำชับห้ามกินเหล้านะ อดอาหารหลังเที่งคืนเป็นต้นไปนะ รับทราบครับ ^ ^

     เพิ่มเติมอีกนิด ก่อนจะศัลยกรรมควรศึกษาการเตรียมตัวก่อนทำ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไหว้พระ สวดมนตร์ ขออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวร ไม่ว่าจะเป็นคุนหมอ พี่ผู้ช่วย เจ้ากรรมนายเวรที่ไม่มีตัวตน หาเวลาไปไหว้พระครูบาศรีวิชัยให้การผ่าตัดลุล่วงไปได้ด้วยดี เพราะทุกคนคงเคยได้ยินว่า ทำศัลยกรรมอยู่ที่ดวงด้วยข้อนี้เลยลืมไม่ได้

     วันที่ 9 เมษา 54 ตื่นตั้งแต่ไก่โห่ รีบขับรถไปรับเพื่อน เพราะศัลยกรรมหน้าอกต้องเอาเพื่อนไปด้วย เพราะเราจะเมายาสลบสลึมสลือ ไปถึงคลินิก 8.30น. เข้าไปก็โทรหาพี่ไก่ พี่ไก่ใหไปรายงานตัวที่พี่ติ่งเพื่อวัดความดัน เซ็นเอกสาร ชำระเงิน คนไข้อย่างเยอะอ่ะ รอกะเพื่อนจนถึง 10 โมงเลยเข้าไปถามหน้าเคาร์เตอร์ปรากฎว่าให้มาอีกทีตอนบ่ายครึ่ง โอย...หิวข้าวมากกกก แต่ก็ทนค่ะ ส่งเพื่อนทานข้าวนั่งกลืนน้ำลายไป จิบน้ำไป แอบร้องไห้กระซิก ๆ ในใจ หิวโว๊ย..แต่ทำไงได้ถ้ากินมันจะมีผลตอนผ่าตัดเลยตัดใจ

     รอเวลาถึงบ่ายครึ่งเข้าไปคนไข้เยอะเหมือนเดิม ทั้งในเชียงใหม่ และที่มาจากต่างจังหวัด รอจนถึงบ่ายสองครึ่ง พี่ติ่งพยักหน้าเรียก เป็นอันรู้กันว่าถึงคิวละ โอ๊ว..ตาชั้นแล้วหนอ ไม่ทำได้มั๊ย เงินก็จ่ายไปแล้ว เจ็บแน่เลยตู คิดไปสารพัด แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ เดินขึ้นไปชั้น 2 ซักครึ่งชัวโมงก็มีคนไข่ผ่าตัดนมออก เออเราอยากใหญ่ เค้าไม่อยากมีตลกดีแฮะ 55+

     พี่ไก่เรียกเข้าไปในห้อง นอนตรงเตียงพัก ถามเราหิวข้าวป่าว แอบบ่น..หิวดิพี่ หิวมั่กมาก พี่ผู้ช่วยก็ให้ถอดเสื้อ เอาผ้าห่มคลุม คุนหมอก็เอาเข็มเจาะให้น้ำเกลือ ประมาณ 30 นาทีแหละ เพราะต้องรอคุนหมอเสริมจมูกให้ลูกค้าอีกคนก่อน เราปิดตานะ ไม่เห็นแล้วก็ไม่อยากมอง กลัวเลือด ฟังเพลงไป หลับซะงั้น มาตื่นอีกทีพี่ไก่สะกิด ๆ ให้หมอดูเนื้อหน้าอก

    คุนหมอแอบถาม สักหัวนมที่ไหนมา เราตอบแบบยิ้ม ๆ ไม่สักค่ะทาครีม นมเราชมพูไง 55+แอบอวด (ใครสนใจสอบถามได้นะ 55+)

     หมอพูดน้อยสมคำร่ำรือ แต่ดูท่าทางใจดีมั่ก มาก

     เสร็จแล้วคุนหมอก็ให้นอนบนเตียงมัด แขน ขา แล้วเอาสำลีชุบแอลกอฮอลมั้งเช็ดตัวเรา 2 รอบ แล้วก็เอาซิลิโคนวางทาบที่หน้าอก เอาหมึกมาแต้มทำตำแหน่งไว้ แล้วพี่ผู้ช่วยก็เอายาไรซักอย่างฉีดเข้าที่สายน้ำเกลือ ตอนยาเข้าไปในเส้นเลือดปวดมาก นับ 1 2 3 ไม่รุเรื่องแล้ว (_ _)zZ

      ตื่นมาอีกทีรู้สึกว่าเหมือนมีคนมากดหน้าอกถามว่าเจ็บมั๊ย เจ็บนะ แต่ถึงขนาดรถบรรทุกทับก็ไม่ใช่ เพราะถ้างั้นคงเดดสะมอเร่ไปละ 55+ เราร้องโอดโอยมาก ทุกคนก็พยายามเรียก เราก็พยายามลืมตา สูดหายใจลึกๆ เพราะถ้าขืนเรายังร้องตามใจตัวเองแบบนี้คนไข้คิวต่อไปมีหวังหนีกลับบ้านแน่ๆ ซักพักเพื่อนซี้รีบวิ่งมาดู เพื่อนกะพี่ติ่งก็ช่วยพยุงเดินลงไปที่รถ นั่งรถก็หลับ ๆ ตืน ๆ เพราะเมายาสลบอยู่

     ถึงบ้านเพื่อนพยุงให้ไปนอนที่ห้อง หิวมากคิดเมนูไม่ออกจัดข้าวหมูกระเทียมนี่หล่ะง่ายสุด แล้วก็น้ำมะพร้าว 1 แก้ว กินยา หลับเลยเพราะหมดแรงจริง ๆ จะเข้าห้องน้ำก็ต้องมีคนมาพยุง เพราะลุกเองไม่ได้ Y^Y

     วันที่ 2 ของการผ่าตัด พยายามลุกเอง กินยาก่อนอาหาร ล้างหน้า แปรงฟัน แต่งตัวใส่เสื้อผ้าที่ง่าย ๆ เพราะอ้าแขนมากไม่ได้ กินข้าว และกินยาหลังอาหาร อันนี้สำคัญที่สุด เพราะไม่ใช่ว่าจะให้หมอมาดูแลเราอย่างเดียว เราต้องรักตัวเองและดูแลตัวเองด้วย เห็นบางเคส (ความเห็นส่วนตัวนะค่ะ) ศัลยกรรมแล้วไม่ดูแลตัวเองใหดี มีปัญหาไม่รีบพบหมอ แล้วก็มาเอะอะโวยวาย ดิสเครดิสหมอ ไม่ดีค่ะ อย่าทำ บาปมาก แอบบ่นเพราะเห็นใจหมอและพี่ผู้ช่วย 55+

     พยายามเดินช้า ๆ ค่อย ๆ ยกแขนในระดับที่สามารถยกได้ อย่าฝืนถ้าเจ็บ ไม่กินอาหารแสลง พวกอาหารทะเล และนมถั่วเหลือง กินแต่หมู ผัก ผลไม้ น้ำมะพร้าว น้ำใบบัวบก และทานยา แล้วก็หลับพักฟื้นร่างกาย เดินเล่นบ้างเพื่อห้ร่างกายได้ผ่อนคลาย ^ ^

     วันที่ 3 ขอการผ่าตัด ลุกนั่ง สบายมาก อาจมีเจ็บแปล๊บ ๆ บ้าง แต่ต้องย้ำเหมือนเดิมคือ ทานข้าวทานยา ให้ตรงเวลา ทานผักผลไม้ อาหารที่มีประโยชน์ ทานแต่กับข้าวที่ทำจากหมูนะค่ะ อาหารที่ควรเลี่ยงก็ให้เลี่ยงทนเอา 1 เดือน มุ่งมั่น ๆ

     โทรไปถามพี่ไก้ว่าผ้าพันแผลนี่เอาออกได้เมื่อไหร่ พี่ไก่บอกว่า 3 วันแต่ให้นับเป็น 24 ชั่วโมง คือเวลาที่เริ่มพันแผล อย่างของเรานับเอาตอนทุ่มนึงวันเสาร์ที่ 9 เมษา วันที่แกะออกได้คือทุ่มนึงของวันอังคารที่ 12 เมษา แกะผ้าพันและพาสเตอร์ใต้รักแร้ออก พาสเตอร์ใต้รักแร้มันแน่นมากให้ใช้สบู่ถูรอบๆพาสเตอร์แล้วค่อย ๆ ดึงออก เสร็จแล้วก็อาบน้ำล้างแผล ห้ามฟอกสบู่แรงนะ อาบน้ำเสร้จก็ซับให้แห้ง เราเอาสำลีชุบไฮโดรเจนก่อนแล้วค่อยชุบเบตาดีทารอบแผล พยามยามยกแขนขึ้นลงช้า ๆ บ้าง เด๋วจะรีวิวรูปให้ดู

ปล. จะเข้ามาอัพเดทอาการเรื่อย ๆ ส่วนตัวแล้วศึกษาการทำศัลยกรรม ข้อดี ข้อเสียมาพอสมควร อยากอธิบายรายละเอียดแก่ผู้ที่สนใจทำ เห็นหลายคนไปทำกรุงเทพ แพงกว่านี้เท่าตัว ไหนจะค่าเดินทางอีก เลยเสนอทางเลือกให้ผู้ที่สนใจ หากใครอยากทำศัลยกรรมที่ราคาสมเหตุ สมผล ออกมาดี ก็ขอแนะนำคลินิกศัลยกรรมความงาม เราไม่ใช่นายหน้านะ แค่เป็นลูกค้าที่ประทับใจที่นี่เท่านั้นเอง

     นี่เป็นยาประจำกายตอนทำหน้าอก ไปร้านขายยา บอกเลยว่าผ่าตัดใหญ่มา ขอจัดยาที่หายเร็ว ๆ 555+

     1. ใบบัวบกแคปซูล ไผ่เงิน100% กินหลังอาหาร 3 มื้อ ครั้งละ 2-3 เม็ด

     2. ยาPyramox500 เป็นยาฆ่าเชื้อ ทำให้แผลหลังผ่าตัดแห้งเร็ว ไม่มีภาวะแทรกซ้อน

     3. Heidi400 เป็นยาแก้ปวด ลดไข้ ลดการอักเสบของแผล

     4. การามัยซิน ครีม ใช้ทาแผลบริเวณรักแร้ ทาประมาณ 3-5 วัน เพราะแผลที่ตัดไหมจะยังไม่แห้งดี

     5. Hiruscar เจล ใช้ทาหลังจากที่แผลแห้งแล้ว นวดกดที่แผลใต้รักแร้ เพราะมันจะทำให้แผลไม่นูน แล้วก็สีจางลงค่ะ

     6. ทานน้ำมะพร้าววันละ 2 แก้ว อย่างน้อย จะทำให้ระบบน้ำเหลืองเราดีขึ้น การสร้างเนื้อเยื่อใหม่เร็วขึ้น

     ตอนนี้ทำมาได้ 11 เดือนแล้วค่ะ จะครบ 1 ปี วันที่ 9 เมษายน 55

     โดยส่วนตัวพอใจมาก ถึงมากที่สุด เพราะว่าใส่เสื้อผ้าสวยขึ้น ดูหุ่นดีขึ้น ใครที่กลัว ๆ สองจิต สองใจ ถ้าร่างกายพร้อม ทุนพร้อมทำเลยค่ะ หาข้อมูล หาคุณหมอที่ฝีมือดี ๆ  แอบเชียร์และเทใจให้ทางคุณหมอชาตรี

     เราเคยรีวิวไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่เผอิญว่ามีมือดีนำรูปไปรีวิวที่อื่น เลยโวยวายไปเลย และขอพี่ไก่ลบกระทู้ออก เพื่อใส่ตัวหนังสือให้เครดิตเฉพาะ เชียงหม่ศัลยกรรมความงาม เท่านั้น ตอนนั้นมีผู้คนสนใจสอบถามมามากมายทั้งเรื่องหน้าอก เรื่องนมชมพู (ไม่ได้สักนะค่ะ ทาครีมเอา) และรักแร้ขาว (ไม่ได้เลเซอร์ค่ะ ทาครีมเช่นกัน) ของ Beauty Plus (By Sa-nii)

     และคำถามที่ผู้หญิง หรือหลาย ๆ คนคาใจอยากถาม แต่ก็อ้อมไปอ้อมมา วันนี้ได้ตั้งกระทู้ใหม่ ขอนำมาเรียบเรียงคำถามเหล่านั้นให้ได้ศึกษาค่ะ ^ ^

     - เจ็บมั๊ย?? เจ็บค่ะ หลังทำ และ 3 วันแรก หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ทุเลาลง อาจเพราะกินอาหารที่เป็นประโยชน์ ผัก ผลไม้ไม่ขาด ทานยาตรงเวลา ลุกเดินเมื่อมีโอกาส เพราะยิ่งนอนซม ร่างกายก็ไม่ได้เคลื่อนไหว ไม่ได้ซ่อมแซมตัวเอง

     - ธรรมชาติมั๊ย?? ธรรมชาติค่ะ อาจจะช่วง 14-28 วันแรกที่นมเป็นบล๊อก แต่ไม่เป็นก้อนกลม เหมือนที่เราเห็นของดาราบางคนนะค่ะ เพราะเพิ่งหายบวม

     - แฟนจับได้มั๊ย?? ได้ค่ะ แต่งดช่วง 7 วันแรก หลังตัดไหมค่อยได้จับ ให้คลึงเต็มที่ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังสร้างพังผืด เราต้องกดซ้าย ขวา หน้า หลัง ให้ถุงซิลิโคนเคลื่อนไปโดยรอบ มือผู้ชายน้ำหนักจะเยอะกว่ามือเรา แต่ถ้าไม่มีแฟน ก็กดเองตามที่บอก

     - บรรดาแฟน(ผู้ที่สอบถาม)ชอบบอกว่าของปลอมไม่เหมือนของจริง (แต่ทำไมชอบดู ชอบจับของปลอมก็ไม่รู้เนอะ55+)?? ช่วงแรก ๆ ไม่เหมือนหรอกค่ะ ต้องร่วมด้วยช่วยกัน หมั่นนวด หมั่นคลึง เหมือนของจริงแน่นอน ถ้าจะก๊อปก็ขอเป็นเกรด V.I.P Super Mirror คือไม่มีหมอเอาหลักฐานว่าทำ ก็ไม่มีทางดูออก 55+ เพราะแฟนเราก็รู้หลังทำตอนแรกบ่นแบบเนี๊ยะ พอหลังเอาผ้าพันออกวันที่ 3 เห็นตอนช่วงนมเป็นบล๊อก หมึกแต้มเป็นรอย ๆ แฟนยังยอมรับเลยว่าอารมณ์เตลิด 555

     - จริงมั๊ยที่ทำแล้วหัวนมจะไม่มีความรู้สึก?? แล้วแต่คนค่ะ ส่วนตัวทำแล้วหัวนมด้านซ้ายรู้สึกตามปกติ ด้านขวาไม่มีความรู้สึกประมาณ 5 เดือนได้ เพราะ ปกติแล้วบริเวณหัวนมจะมีประสาทรับรู้ 3 เส้น ถ้าโดนกระทบกระเทือนแรง ๆ มีโอกาสที่ประสาทรับรู้จะฉีกขาด แต่จะค่อย ๆ หายไปในระยะเวลา 6 เดือน ถึง 2 ปี

อีกรูปค่ะ ที่แสดงถึงเรื่องการจับ การนวด คลึง ได้ตามปกติ ที่สาว ๆ หลายท่านกังวลมาก

Page Facebook : thaibeautyplus หรือ beauty plus (by sa-nii)

หรือโทรไปที่เบอร์ 089-5546906 นะค่ะ

ครีมทานมชมพูกระปุกละ 390 บาท ^ ^